ทำไมหุ้นติด Cash Balance แล้วราคาต้องตก?

Author:
ช่วยแชร์ต่อนะครับ

หุ้นติด Cash Balance หมายถึง หลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กำหนดให้ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งหมดเป็นระยะเวลาหนึ่ง เป็นมาตรการที่ ตลท. ใช้เพื่อควบคุมดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีราคาหรือปริมาณการซื้อขายผิดปกติไปจากสภาวะปกติ เพื่อลดความผันผวนของราคาหุ้นและป้องกันการเก็งกำไรที่อาจส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย

โดยหลักทรัพย์ที่ติด Cash Balance จะต้องซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนจะต้องมีเงินสดในบัญชีเต็มจำนวนก่อนส่งคำสั่งซื้อ จึงจะสามารถซื้อขายหุ้นที่ติด Cash Balance ได้ ไม่อนุญาตให้ซื้อขายด้วยวิธีซื้อขายแบบมาร์จิ้น ซึ่งเป็นการกู้ยืมเงินจากบริษัทหลักทรัพย์เพื่อมาซื้อหลักทรัพย์ เนื่องจากอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน

ระดับของ Cash Balance และเงื่อนไข

การติด Cash Balance นั้นมีหลายระดับ โดยแต่ละระดับจะมีเงื่อนไขและระยะเวลาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความผิดปกติของราคาและปริมาณการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น

ระดับ 1: หลักทรัพย์ที่ราคาซื้อขายผันผวนผิดปกติ หรือมีปริมาณการซื้อขายผิดปกติ โดยราคาซื้อขายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ หรือมีปริมาณการซื้อขายมากกว่าปกติอย่างมีนัยสำคัญ

ระดับ 2: หลักทรัพย์ที่อยู่ในระดับ 1 และยังคงมีราคาซื้อขายผันผวนผิดปกติ หรือมีปริมาณการซื้อขายผิดปกติอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

ระดับ 3: หลักทรัพย์ที่อยู่ในระดับ 2 และยังคงมีราคาซื้อขายผันผวนผิดปกติ หรือมีปริมาณการซื้อขายผิดปกติอย่างต่อเนื่อง เป็นระดับที่รุนแรงที่สุด

โดยหลักทรัพย์ที่ติด Cash Balance จะมีเครื่องหมาย “C” ปรากฏอยู่ที่ชื่อหลักทรัพย์ในระบบซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อให้นักลงทุนสามารถสังเกตและระบุได้ง่าย

สาเหตุที่ทำให้หุ้นติด Cash Balance

สาเหตุที่ทำให้หุ้นติด Cash Balance นั้นมีหลายปัจจัย เช่น

ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็วและผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การปล่อยข่าวลือ การกระทำของนักลงทุนรายใหญ่ หรือการเก็งกำไร

ปริมาณการซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของราคาหุ้น และอาจเป็นสัญญาณของการปั่นหุ้น

มีข่าวหรือข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ข่าวดีหรือข่าวร้ายเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท ข่าวการควบรวมกิจการ หรือข่าวการเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐ

ผลกระทบต่อผู้ลงทุน

การที่หุ้นติด Cash Balance อาจส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุนหลายด้าน ดังนี้

สภาพคล่อง: หุ้นที่ติด Cash Balance อาจมีสภาพคล่องต่ำลง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนอาจไม่ต้องการซื้อขายหุ้นที่ต้องใช้เงินสดเต็มจำนวน ทำให้การขายหุ้นทำได้ยากขึ้น หรือขายได้ในราคาที่ไม่ดีเท่าที่ควร

ความเสี่ยง: หุ้นที่ติด Cash Balance มักมีความผันผวนของราคาสูง เนื่องจากเป็นหุ้นที่อยู่ในช่วงที่ราคาไม่แน่นอน ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนขาดทุนได้ง่าย หากราคาหุ้นปรับตัวลดลง

โอกาส: ในขณะเดียวกัน หุ้นที่ติด Cash Balance อาจเป็นโอกาสในการลงทุนสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง เนื่องจากราคาหุ้นที่ผันผวนอาจเปิดโอกาสให้ซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำ และขายทำกำไรได้ในราคาสูงขึ้น

ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน

ศึกษาข้อมูล: ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นที่ติด Cash Balance อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ผลประกอบการ และแนวโน้มธุรกิจ

ทำความเข้าใจเงื่อนไข: ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขและระยะเวลาในการติด Cash Balance ของหุ้นแต่ละระดับ เพื่อประเมินความเสี่ยงและวางแผนการลงทุนให้เหมาะสม

เตรียมเงินสด: ต้องเตรียมเงินสดให้พร้อมสำหรับการซื้อขาย เนื่องจากต้องชำระเงินเต็มจำนวน

ติดตามข่าวสาร: ควรติดตามข่าวสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหุ้นที่ติด Cash Balance อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม

การลงทุนในหุ้นที่ติด Cash Balance มีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่อาจยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนมากนัก หรือมีเงินทุนจำกัด ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นประเภทนี้

อย่างไรก็ตาม การที่หุ้นติด Cash Balance ไม่ได้หมายความว่าหุ้นนั้นๆ จะไม่ดีเสมอไป ในบางกรณี หุ้นที่ติด Cash Balance อาจเป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เพียงแต่ราคาหุ้นมีความผันผวนมากเกินไปในช่วงเวลานั้นๆ

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นที่ติด Cash Balance นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ รวมถึงประเมินความเสี่ยงที่ตนเองสามารถรับได้ เพื่อลดโอกาสในการขาดทุนจากการลงทุน

นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารและประกาศจาก ตลท. เกี่ยวกับหุ้นที่ติด Cash Balance อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

error: Content is protected !!