SSF หรือ Super Saving Funds คือ กองทุนรวมประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว โดยมีจุดเด่นอยู่ที่สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ผู้ลงทุนจะได้รับ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแรงจูงใจในการออมเงินให้เพิ่มมากขึ้น ผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนในกองทุน SSF ไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ต้องเป็นการลงทุนภายในช่วงเวลาที่กำหนด คือ ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2567 เท่านั้น
เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของกองทุน SSF มีรายละเอียดดังนี้
ลดหย่อนภาษี: ผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนในกองทุน SSF ไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี ซึ่งหมายความว่า หากท่านมีเงินได้พึงประเมิน 1,000,000 บาท ท่านจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุน SSF ได้สูงสุด 200,000 บาท ทำให้สามารถลดภาระภาษีได้
ระยะเวลาการลงทุน: เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุน SSF ที่ต้องการส่งเสริมการออมระยะยาว ผู้ลงทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุน SSF เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน หากขายคืนก่อนครบกำหนด อาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับ
การลงทุน: กองทุน SSF เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ในสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภท เช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และอื่นๆ ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
การจ่ายเงินปันผล: กองทุน SSF มีทั้งแบบที่จ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามความต้องการและวัตถุประสงค์ทางการเงินของตนเอง
กองทุน SSF เหมาะกับใครบ้าง?
ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี: หากท่านกำลังมองหาช่องทางในการลงทุนที่สามารถช่วยลดภาระภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย กองทุน SSF ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ผู้ที่ต้องการออมเงินระยะยาว: กองทุน SSF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนเก็บออมเงินในระยะยาว เช่น การเเบบเกษียณ โดยมีวินัยในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ผู้ที่รับความเสี่ยงได้: เนื่องจากกองทุน SSF มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจจะได้รับผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรมีความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวังในการลงทุนในกองทุน SSF
ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุน SSF ไม่แน่นอน: เนื่องจากกองทุน SSF มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ผลตอบแทนจากการลงทุนจึงมีความผันผวนตามสภาการณ์ของตลาด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนในกองทุน SSF มีความเสี่ยง: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงของกองทุน SSF อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุน SSF
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุน SSF ได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนในกองทุน SSF สอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของท่าน
และช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป
ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน:แม้ว่ากองทุน SSF จะมีข้อดีหลายประการ แต่ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุน SSF อย่างละเอียด เช่น นโยบายการลงทุน ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ค่าธรรมเนียม และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนตัดสินใจลงทุน
เปรียบเทียบกองทุน SSF จากหลายๆ บลจ.: ปัจจุบันมี บลจ. หลายแห่งที่เสนอขายกองทุน SSF ซึ่งแต่ละกองทุนอาจมีนโยบายการลงทุน ระดับความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ผู้ลงทุนควรเปรียบเทียบกองทุน SSF จากหลายๆ บลจ. เพื่อเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของตนเองมากที่สุด
ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ: การลงทุนในกองทุน SSF อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเฉลี่ยต้นทุนในการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้
ติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ: ผู้ลงทุนควรติดตามผลการดำเนินงานของกองทุน SSF ที่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนยังคงเป็นไปตามเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน