Junk bond หรือ หุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงสูง คือ ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงกว่าบริษัททั่วไป ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ประเภทนี้ต่ำกว่าระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) โดยทั่วไปแล้ว บริษัทที่ออก junk bond มักจะเป็นบริษัทขนาดเล็ก บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง หรือบริษัทที่มีหนี้สินจำนวนมาก ซึ่งบริษัทเหล่านี้อาจมีความสามารถในการชำระหนี้คืนได้ต่ำกว่าบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินมากกว่า
ลักษณะของ Junk bond
ผลตอบแทนสูง: เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง Junk bond จึงเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไป เพื่อดึงดูดนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง โดยผลตอบแทนที่สูงนี้เป็นสิ่งที่ช่วยชดเชยความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องแบกรับจากการลงทุนในตราสารที่มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้สูง
ความเสี่ยงสูง: โอกาสที่บริษัทผู้ออก junk bond จะผิดนัดชำระหนี้มีมากกว่าหุ้นกู้ทั่วไป เนื่องจากบริษัทเหล่านี้อาจมีฐานะการเงินที่ไม่มั่นคง มีรายได้ไม่แน่นอน หรือมีภาระหนี้สินจำนวนมาก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท
อันดับความน่าเชื่อถือต่ำ: Junk bond มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับ BBB- หรือ Baa3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของ Investment Grade โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทผู้ออกตราสารหนี้ และจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้กับตราสารหนี้นั้นๆ ซึ่ง Junk bond จะได้รับการจัดอันดับอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับที่ลงทุนได้
สภาพคล่องต่ำ: Junk bond อาจมีสภาพคล่องต่ำกว่าหุ้นกู้ทั่วไป ทำให้ขายออกได้ยากกว่า เนื่องจากมีนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตราสารประเภทนี้น้อยกว่าหุ้นกู้ทั่วไป ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการขาย Junk bond ก่อนครบกำหนด อาจจะต้องขายในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
สาเหตุที่บริษัทเลือกออก Junk bond
ระดมทุน: บริษัทที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงอาจไม่สามารถระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ทั่วไปได้ เนื่องจากนักลงทุนทั่วไปมักไม่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง Junk bond จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการระดมทุนสำหรับบริษัทเหล่านี้ แม้ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าก็ตาม
ปรับโครงสร้างหนี้: บริษัทอาจใช้ junk bond เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่มีอยู่ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย หรือเพื่อยืดระยะเวลาการชำระหนี้ โดยบริษัทอาจออก Junk bond เพื่อนำเงินที่ได้ไปไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า หรือมีกำหนดชำระคืนในระยะเวลาอันใกล้
ซื้อกิจการ: บริษัทอาจใช้ junk bond เพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อกิจการแบบ Leverage Buyout (LBO) ซึ่งเป็นการซื้อกิจการโดยใช้เงินกู้เป็นหลัก ซึ่ง Junk bond เป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญสำหรับการทำ LBO
ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนใน Junk bond
ข้อดี:
ผลตอบแทนสูง: ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว Junk bond มีผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและยอมรับความเสี่ยงได้
โอกาสในการเติบโต: บริษัทที่ออก Junk bond บางแห่งอาจมีศักยภาพในการเติบโตสูง หากบริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ นักลงทุนก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงจากการลงทุนใน Junk bond ของบริษัทเหล่านี้
ข้อเสีย:
ความเสี่ยงสูง: ข้อเสียที่สำคัญที่สุดของ Junk bond คือความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีโอกาสที่บริษัทผู้ออกตราสารจะผิดนัดชำระหนี้สูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไป หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น นักลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้
สภาพคล่องต่ำ: Junk bond มีสภาพคล่องต่ำกว่าหุ้นกู้ทั่วไป ทำให้ขายออกได้ยากกว่า หากนักลงทุนต้องการขาย Junk bond ก่อนครบกำหนด อาจจะต้องขายในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
Junk bond เหมาะกับใคร?
Junk bond เหมาะกับนักลงทุนที่:
ยอมรับความเสี่ยงได้สูง: เนื่องจาก Junk bond มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนจึงควรเป็นผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง และสามารถรับความสูญเสียได้
มีเงินลงทุนส่วนเกิน: นักลงทุนควรลงทุนใน Junk bond ด้วยเงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น เนื่องจาก Junk bond มีสภาพคล่องต่ำ
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตราสารหนี้: นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Junk bond อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้เข้าใจถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนของตราสารประเภทนี้
สรุป
Junk bond เป็นตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงของ Junk bond อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่า Junk bond เป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง