ตราสารหนี้ Investment Grade คืออะไร?
ตราสารหนี้ Investment Grade คือตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับเครดิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น Moody’s, Standard & Poor’s และ Fitch Ratings ให้อยู่ในระดับที่สูง สะท้อนถึงความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยได้ตามกำหนดอย่างมั่นคง โดยตราสารหนี้ประเภทนี้มักจะออกโดยบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีผลประกอบการที่ดี มีกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ และมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต หรือออกโดยรัฐบาลของประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพทางการเมือง และมีความสามารถในการชำระหนี้ต่างประเทศได้ดี
ลักษณะสำคัญของตราสารหนี้ Investment Grade
ความเสี่ยงต่ำ: ตราสารหนี้ Investment Grade ถือเป็นตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากผู้ออกตราสารหนี้มีความน่าเชื่อถือสูง มีความมั่นคงทางการเงิน และมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจได้ว่าจะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยคืนตามกำหนด
ผลตอบแทนต่ำกว่า: เนื่องจากความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนที่ได้รับจากตราสารหนี้ Investment Gradeจึงมักจะไม่สูงเท่าตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เช่น ตราสารหนี้ High Yield หรือ Junk Bond ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือต่ำกว่า
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง: ตราสารหนี้ Investment Grade จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงในการลงทุน ต้องการรักษาเงินต้น และไม่ต้องการรับความเสี่ยงมากนัก เช่น นักลงทุนสถาบัน กองทุนบำเหน็จบำนาญ หรือผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออิสระ เช่น Moody’s, Standard & Poor’s และ Fitch Ratings จะทำหน้าที่ประเมินความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สถานะทางการเงินของผู้ออกตราสารหนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน แนวโน้มของอุตสาหกรรม สภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการแข่งขัน และความเสี่ยงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะกำหนดอันดับความน่าเชื่อถือให้กับตราสารหนี้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ระดับ BBB- (โดย Standard & Poor’s และ Fitch Ratings) หรือ Baa3 (โดย Moody’s) ขึ้นไป จะถือว่าเป็นตราสารหนี้ Investment Grade
ข้อดีและข้อเสียของตราสารหนี้ Investment Grade
ข้อดี:
ความเสี่ยงต่ำ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงมากนัก เช่น นักลงทุนที่ต้องการรักษาเงินต้น หรือผู้ที่เกษียณอายุแล้ว
สภาพคล่องสูง: ตราสารหนี้ Investment Grade มักจะมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ง่ายในตลาดรอง ทำให้นักลงทุนสามารถขายตราสารหนี้ ได้ก่อนครบกำหนด หากต้องการใช้เงินสด
ผลตอบแทนสม่ำเสมอ: ตราสารหนี้ Investment Grade มักจะมีการจ่ายดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอตามกำหนดเวลาที่แน่นอน ทำให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์กระแสเงินสดรับได้
ข้อเสีย:
ผลตอบแทนต่ำ: ผลตอบแทนที่ได้รับจากตราสารหนี้ Investment Grade อาจจะไม่สูงเท่าตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ทำให้นักลงทุนอาจพลาดโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า
อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูง: หากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน อาจจะต้องพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เช่น ตราสารหนี้ I High Yield หรือหุ้น
สรุป
ตราสารหนี้ Investment Gradeเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงในการลงทุน ต้องการรักษาเงินต้น และไม่ต้องการรับความเสี่ยงมากนัก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตราสารหนี้และผู้ออกตราสารหนี้อย่างละเอียด พิจารณาความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง รวมถึงเปรียบเทียบกับทางเลือกการลงทุนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนนั้นเหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเอง
นอกจากนี้ การกระจายความเสี่ยงก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าตราสารหนี้ Investment Gradeจะมีความเสี่ยงต่ำ แต่การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวมากเกินไปก็อาจไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีที่สุด การแบ่งเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือทองคำ จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีขึ้นได้
สุดท้ายนี้ ก่อนตัดสินใจลงทุนในตราสารหนี้ Investment Grade หรือตราสารหนี้อื่นๆ ควรปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อขอคำแนะนำในการเลือกลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงิน ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสภาวะทางการเงินของท่านเอง