ระบบพิกัดฮาร์โมไนซ์ (HS Code – Harmonized System) สิ่งสำคัญต่อการคำนวณภาษีอากรศุลกากร

Author:
ช่วยแชร์ต่อนะครับ

แต่เดิมประเทศไทยใช้ระบบการจัดเก็บภาษีระบบพิกัดอัตราศุลกากรบลัสเซลล์ (BTN- Brussels Tariffs Nomenclature – BTN โดยเริ่มจัดเก็บตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 แต่เมื่อปี พ.ศ. 2530 ได้ใช้ระบบพิกัดฮาร์โมไนซ์ (HS Code – Harmonized System) ซึ่งได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การตีความ ทั้งนี้ได้กำหนดไว้ในพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร ทั้งนี้เป็นไปตามที่กำหนดขึ้นโดยองค์การศุลกากรโลก ( World Customs Organization – WCO) ในหลาย ๆ ประเทศให้การยอมรับมาตรฐานนี้ และได้ร่วมกันใช้ทั่วโลก ทำให้การตีความประเภทสินค้าเป็นไปในแนวทางเดียวกัน  จำแนกประเภทออกเป็น 21 หมวด 97 ตอน มากกว่า 5,000 ประเภทพิกัด โดยมีหลักว่าสินค้าเหมือนกันทุกประเทศต้องใช้พิกัดเดียวกัน

สำหรับ ระบบพิกัดฮาร์โมไนซ์ (HS Code – Harmonized System) จะประกอบไปด้วยตัวเลข 8 หลัก

โดย 6 ตัวแรกจะกำหนดมาจากองค์การศุลกากรโลก ( World Customs Organization – WCO) ใช้กันทั่วโลก

ทั้งนี้ 2 ตัวแรกเป็นเลขลำดับของตอน  

ตัวที่ 3 และ 4 เป็นเลขลำดับของประเภท

สำหรับตัวที่ 5 และ 6 จะเป็นลำดับของประเภทย่อย

สำหรับ 2 ตัวสุดท้ายคือประเภทย่อยอาเซียน จะมีเฉพาะในประเทศอาเซียนที่มีการกำหนดขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับสินค้าในพื้นที่ประเทศอาเซียนเอง

การศึกษาระบบพิกัดฮาร์โมไนซ์ (HS Code – Harmonized System) ได้อย่างมีความเข้าใจและชำนาญจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถคำนวณต้นทุนสินค้าได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะต้นทุนทางด้านภาษีอากรศุลกากรหากไม่สามารถแยกประเภทพิกัดฮาร์โมไนซ์ (HS Code – Harmonized System) ได้อย่างถูกต้องจะส่งผลเสียในการคำนวณค่าภาษีอากรศุลกากร

error: Content is protected !!