พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา ๒๕๒ ความผิดอาญาไม่จำเป็นต้องมีเจตนา

Author:
ช่วยแชร์ต่อนะครับ

กฎหมายศุลกากรความผิดอาญาไม่จำเป็นต้องมีเจตนา เป็นลักษณะที่แตกต่างจากกฎหมายประมวลกฎหมายอาญา

พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา ๒๕๒ บัญญัติว่า “การกระทำความผิดตามมาตรา ๒๐๒ มาตรา ๒๔๒ หรือมาตรา ๒๔๔ ให้ผู้กระทำต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา”

จะเห็นว่าพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา ๒๕๒ ระบุชัดเจนว่าต้องรับผิดแม้ไม่มีเจตนา โดยจะประกอบด้วย

1. การยื่นใบขนสินค้า เอกสาร หรือข้อมูล ไม่ถูกต้อง

พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา ๒๐๒ บัญญัติว่า “ผู้ใดยื่น จัดให้ หรือยอมให้ผู้อื่นยื่นใบขนสินค้า เอกสาร หรือข้อมูล ซึ่งเกี่ยวกับการเสียอากรหรือการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์ อันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในรายการใดๆ ที่ได้แสดงไว้ในใบขนสินค้า เอกสาร หรือข้อมูลดังกล่าวต่อพนักงานศุลกากร ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท”

2. การลักลอบ

พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา ๒๔๒ บัญญัติว่า “ผู้ใดนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของนั้นไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่”

3. หลีกเลี่ยง

พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา ๒๔๔ บัญญัติว่า “ผู้ใดนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร หรือส่งของดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร หรือนำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำโดยหลีกเลี่ยงข้อจํากัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งริบของนั้นก็ได้ ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่”

4. การนำเข้าส่งออกทางไปรษณีย์

พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 61 บัญญัติว่า “ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๔๒ มาตรา ๒๔๓ มาตรา ๒๔๔ และมาตรา ๒๔๕ มาใช้บังคับกับของที่นำเข้ามาในหรือจะส่งออกไปนอกราชอาณาจักรทางไปรษณีย์ด้วย”

โดยมาตรา ๒๕๒ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 แตกต่างจากมาตรา ๕๙ แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่จะต้องกระทำโดยเจตนาโดยระบุว่า “บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา”

แต่ทั้งนี้ได้ระบุไว้ว่าเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติดังนั้น พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา ๒๕๒ จึงสอดคล้องกับมาตรา ๕๙ แห่งประมวลกฎหมายอาญา

error: Content is protected !!