การตัดสินใจว่าจะมีลูกหรือไม่เป็นเรื่องส่วนตัวอย่างยิ่งและมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการตัดสินใจนี้ คนที่ไม่อยากมีลูกอาจมีเหตุผลหลายประการ ดังนี้
ความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย: การเลี้ยงดูลูกต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทั้งค่าอาหาร ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสื้อผ้า ของเล่น และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเด็ก การที่คน ๆ หนึ่งไม่ต้องการมีลูกอาจเป็นเพราะกังวลเกี่ยวกับภาระทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวได้
การให้ความสำคัญกับอาชีพการงาน: ผู้หญิงหลายคนให้ความสำคัญกับอาชีพการงานและการเติบโตในหน้าที่การงาน การมีลูกอาจทำให้พวกเธอต้องหยุดพักงานหรือทำงานน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าในอาชีพ เงินเงินเดือน โอกาสในการเลื่อนขั้น และความมั่นคงในหน้าที่การงานได้
ความต้องการอิสระและเวลาส่วนตัว: การมีลูกต้องใช้เวลาและความรับผิดชอบอย่างมาก หลายคนอาจต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสระ มีเวลาส่วนตัวเพื่อทำสิ่งที่ตนเองสนใจ เช่น การเดินทางท่องเที่ยว การเรียนต่อ การพัฒนาตนเอง การทำงานอดิเรก หรือการใช้เวลากับเพื่อนฝูงและครอบครัว โดยไม่ต้องกังวลกับภาระผูกพันในการเลี้ยงดูบุตร
ความกังวลเกี่ยวกับสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม: ปัญหาต่าง ๆ ในสังคม เช่น มลภาวะ อาชญากรรม ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การเข้าถึงการศึกษาและบริการสาธารณสุข อาจทำให้บางคนไม่อยากมีลูกเพราะกลัวว่าลูกของตนเองจะต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้และได้รับผลกระทบในทางลบ
ความไม่พร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจ: การตั้งครรภ์และการเลี้ยงดูลูกเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องมีความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การดูแลสุขภาพกายและใจของทั้งแม่และเด็ก รวมไปถึงความรับผิดชอบในการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และดูแลเด็กให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ บางคนอาจไม่รู้สึกว่าตนเองมีความพร้อมที่จะเป็นพ่อแม่ในขณะนั้น
ประสบการณ์ส่วนตัว: บางคนอาจมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในวัยเด็กหรือเห็นตัวอย่างของครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาไม่อยากมีลูกเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์แบบเดียวกัน เช่น การหย่าร้าง การใช้ความรุนแรงในครอบครัว การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม หรือปัญหาทางด้านสุขภาพจิตของคนในครอบครัว
สถิติเกี่ยวกับคนที่ไม่ต้องการมีลูก
จากการสำรวจของ Pew Research Center พบว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 44% ในวัย 18-49 ปี ที่ไม่มีลูกกล่าวว่าพวกเขาไม่น่าจะมีลูกในอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ที่เลือกที่จะไม่มีลูกเพิ่มมากขึ้น
เหตุผลหลักที่คนอเมริกันไม่อยากมีลูกคือพวกเขาไม่ต้องการ (43%), ไม่มีคู่ครอง (29%) และกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย (26%) สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม และความต้องการส่วนบุคคลในการตัดสินใจมีบุตร
ทัศนคติทางสังคม
ในอดีต การมีลูกถือเป็นเรื่องปกติและเป็นความคาดหวังของสังคม เป็นบรรทัดฐานทางสังคมที่ผู้หญิงควรแต่งงานและมีลูกเมื่อถึงวัยที่เหมาะสม แต่ในปัจจุบัน ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น ผู้คนมีความหลากหลายในการเลือกที่จะมีหรือไม่มีลูก และสังคมก็เปิดกว้างและยอมรับการตัดสินใจที่แตกต่างกันมากขึ้น คนโสดหรือคู่รักที่ไม่มีลูกก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จได้โดยไม่ถูกกดดันจากค่านิยมเดิมๆ
การตัดสินใจว่าจะมีลูกหรือไม่จึงเป็นเรื่องของมุมมองและวิถีชีวิตของแต่ละบุคคล ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก และไม่ควรถูกตัดสินจากบรรทัดฐานทางสังคมแบบเดิมๆ สิ่งสำคัญคือการเคารพในการตัดสินใจของกันและกัน และให้เกียรติกับทางเลือกที่แต่ละคนเลือกเดิน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างครอบครัวอบอุ่น หรือการใช้ชีวิตอย่างอิสระตามความฝันของตนเอง