แก้ไขสถานการณ์ “งานท่วมหัว ค่าตัวไม่ขยับ” อย่างไรดี?

Author:
ช่วยแชร์ต่อนะครับ

สถานการณ์ “งานท่วมหัว ค่าตัวไม่ขยับ” เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดและทำให้รู้สึกไม่พอใจอย่างแน่นอนค่ะ ความรู้สึกที่ต้องแบกรับภาระงานมากมาย แต่รายได้กลับไม่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น เป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจและความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงสาเหตุของสถานการณ์นี้ พร้อมแนะแนวทางรับมือและข้อคิดดี ๆ เพื่อให้คุณก้าวข้ามความท้าทายนี้ไปได้

ทำไมถึงเกิดสถานการณ์ “งานท่วมหัว ค่าตัวไม่ขยับ”?

ค่าครองชีพสูงขึ้น: ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าค่าครองชีพในปัจจุบันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารที่แพงขึ้น ค่าเดินทางที่เพิ่มขึ้น ค่าเช่าบ้านที่สูงลิ่ว รวมไปถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ที่เราหามาได้ ทำให้เงินเดือนที่เคยเพียงพอต่อการใช้จ่าย กลับกลายเป็นไม่เพียงพออีกต่อไป

ภาวะเงินเฟ้อ: ภาวะเงินเฟ้อเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้ เมื่อราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ค่าของเงินก็จะลดลงไปด้วย นั่นหมายความว่าเงินเดือนเท่าเดิมที่เราได้รับ จะสามารถซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลง ส่งผลให้เรารู้สึกว่ารายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เงินเดือนของเราอาจไม่ได้ลดลงเลย

การแข่งขันสูง: ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและมีการแข่งขันสูง ตลาดแรงงานก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่ดุเดือดไม่แพ้กัน บริษัทต่าง ๆ มีตัวเลือกมากมายในการคัดสรรบุคลากร ทำให้ไม่จำเป็นต้องขึ้นเงินเดือนให้พนักงานมากนัก เพราะมีผู้สมัครงานคนอื่น ๆ ที่พร้อมจะรับงานในอัตราเงินเดือนที่ต่ำกว่า

บริษัทไม่มีนโยบายขึ้นเงินเดือน: บางบริษัทอาจไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นเงินเดือนประจำปี หรืออาจมีข้อจำกัดทางการเงินที่ทำให้ไม่สามารถขึ้นเงินเดือนให้พนักงานได้ตามความเหมาะสม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจ ผลประกอบการของบริษัท หรือปัจจัยอื่น ๆ

ผลงานไม่โดดเด่น: แม้ว่าปัจจัยภายนอกจะมีผลต่อการขึ้นเงินเดือน แต่ปัจจัยภายในอย่าง “ผลงาน” ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ หากผลงานของเรายังไม่โดดเด่น ไม่เป็นที่ประจักษ์ หรือเราไม่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นกว่าผู้อื่น บริษัทก็อาจไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องขึ้นเงินเดือนให้

แล้วเราจะทำอย่างไรได้บ้าง?

พูดคุยกับหัวหน้างาน: การสื่อสารคือกุญแจสำคัญ ลองพูดคุยกับหัวหน้างานอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ ความคาดหวัง และสอบถามถึงโอกาสในการขึ้นเงินเดือน โดยเน้นย้ำถึงผลงาน ความสามารถ และคุณค่าที่คุณได้สร้างให้กับบริษัท การสื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา อาจช่วยให้หัวหน้างานเข้าใจถึงความรู้สึกของคุณมากขึ้น และอาจเปิดโอกาสให้คุณได้รับการพิจารณาขึ้นเงินเดือน

เจรจาต่อรอง: หากคุณมั่นใจในความสามารถและผลงานของคุณ และเชื่อมั่นว่าคุณคู่ควรกับการได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น คุณสามารถรวบรวมข้อมูล ตัวอย่างผลงาน และความสำเร็จต่าง ๆ ที่ผ่านมา เพื่อใช้ในการเจรจาต่อรองเงินเดือนกับบริษัท

มองหาโอกาสใหม่: หากบริษัทปัจจุบันไม่มีโอกาสในการขึ้นเงินเดือน หรือคุณรู้สึกว่าไม่ได้รับการตอบแทนที่เหมาะสมกับความสามารถของคุณ การมองหาโอกาสใหม่ในบริษัทอื่นที่เห็นคุณค่าในตัวคุณ พร้อมมอบค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ดียิ่งขึ้น อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

พัฒนาตัวเอง: การพัฒนาทักษะและความสามารถของตัวเองอยู่เสมอ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ในบริษัทเดิม หรือกำลังมองหาโอกาสใหม่ การมีความรู้ความสามารถที่โดดเด่น ย่อมเป็นใบเบิกทางสู่ความก้าวหน้าและความสำเร็จ

สร้างรายได้เสริม: ในยุคที่รายได้ไม่เข้าใครออกใคร การมีรายได้เสริมถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด คุณสามารถหารายได้เสริมจากงานพิเศษที่ตรงกับความสนใจและความถนัด หรือจะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวเล็ก ๆ

ข้อคิดเพิ่มเติม

อย่าท้อแท้: สถานการณ์ “งานท่วมหัว ค่าตัวไม่ขยับ” เป็นเรื่องที่หลายคนต้องเจอ อย่าปล่อยให้ความท้อแท้มาบั่นทอนจิตใจ จงมองว่ามันเป็นความท้าทายที่คุณต้องก้าวข้ามไปให้ได้

ให้กำลังใจตัวเอง: ให้กำลังใจตัวเองเสมอว่าคุณมีความสามารถและคุณค่า และคุณจะสามารถเอาชนะอุปสรรคนี้ไปได้

ปรึกษาคนอื่น: การปรึกษาปัญหาหรือความรู้สึกกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนในครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้คุณมองเห็นมุมมองใหม่ ๆ ได้รับคำแนะนำดี ๆ และมีกำลังใจในการเผชิญหน้ากับปัญหา

จำไว้ว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียว และทุกปัญหาย่อมมีทางออก ขอเป็นกำลังใจให้คุณก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปได้อย่างเข้มแข็งนะคะ

error: Content is protected !!