เซียวเหอเกิด 257 ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นบุคคลที่มีตำแหน่งระดับสูงเป็นถึงอัครมหาเสนาบดีคนแรกหลักจากการก่อตั้งราชวงศ์ฮั่น ถือว่าเป็นหนึ่งในสาม โดยอีสองคนก็คือ หานซิ่น และ จางเหลี่ยง เซียวเหอถือว่าเป็นบุคคลสำคัญช่วยเป็นฝ่ายสนับสนุนของกองทัพฮั่น ส่งผลให้จักรพรรดิฮั่นเก่าจู่สร้างราชวงศ์ได้
เซียวเหอแต่เดิมนั้นรับราชการราชวงศ์ฉินในฐานะเสมียนฝ่ายปกครองในอำเภอ เป็นคนที่ได้รับการศึกษาที่ดี รู้จักอดออม รักพวกพ้อง ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหนเซียวเหอก็ไม่รังเกียจที่จะคบเป็นเพื่อน โดยเฉพาหลิวปังหรือต่อมาเป็นจักรพรรดิฮั่นเก่าจู่ โดยขณะนั้นเป็นเพียงผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านเฟย แต่มักจะขัดแย้งกัน เนื่องด้วยหลิวปังมักทำอะไรนอกกรอบแต่เซียวเหอก็พร้อมสนับสนุนหลิวปังเสมอ มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งหลิวปังคุมกำลังคนเพื่อนำไปใช้แรงงาน เกิดเหตุการณ์เดินทางล่าช้า หลิวปังเลยนำคนไปกบดานหนีทางการฉินในหุบเขา ในขณะนั้นเกิดเหตุการณ์กบฏ เจ้าเมืองได้ทำการพูดคุยกับเซียวเหอและวางแผนกบฏ โดยเซียวเหอแนะนำให้แต่งตั้งหลิวปังเป็นผู้นำในการกบฏ ต่อมาเจ้าเมืองเกิดความกังวลอิทธิพลหลิวปังจึงทำการจับกุมเซียวเหอไว้แต่เนื่องด้วยพรรคพวกเซียวเหอเยอะเลยหนีการจับกุมออกมาพบกับหลิวปังที่หนีกบดานอยู่ และชวนหลิวปังก่อการโดยการยิงธนูข้อความเข้าไปให้คนในเมืองปลุกระดมยึดอำจาจเจ้าเมืองจนสำเร็จ
หลังจากนั้นทำการพลักดันให้หลิวปังให้เป็นใหญ่ แต่หลิวปังนั้นไม่คิดว่าตัวเองเหมาะสม จึงได้รับการปฏิเสธถึง 3 ครั้ง เมื่อชาวบ้านเห็นวีรกรรมดังกล่าวจึงนับถือหลิวปังมากยิ่งขึ้น จึงมีแนวคิดให้การเสนอให้สุ่มหยิบชื่อจากผู้มีชื่อเสียงในเมือง โดยเซียวเป็นผู้ควบคุมการดำเนินการ พอถึงเวลาหยิบชื่อออกมาก็ออกมาเป็นชื่อหลิวปัง (อันที่จริงชื่อทั้งหมดเป็นชื่อหลิวปังนั่นแหละ) โดยเซียวเหอทำลายชื่อที่เหลือทันทีจากการกลืน
หลิวปังประสบความสำเร็จในการยึดเสียนหยางเมืองหลวงราชวงศ์ฉิน ในขณะที่คนอื่น ๆ ในกองทัพหลิวปังสนใจแต่ทรัพย์สิน เงินทองและผู้หญิง แต่เซียวเหอกับสนใจแผนที่ ข้อมูลเอกสารทะเบียนราษฎร์ ประมวลกฎหมาย ที่ภายภาคหน้าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการปกครองของราชวงศ์ฮั่น และการวางแผนการรบของหลิวปังอีกด้วย
หลังจากที่ร่วมกันกับทัพกบฏอื่น ๆ ล้มราชวงศ์ฉินได้สำเร็จ หลิวปังได้รับมอบหมายจากเซี่ยงอี้ให้ปกครอง ปาฉู่และฮั่นจง โดยแต่งตั้งหลิวปังเป็นฮั่นอ๋อง โดยทีแรกทุกคนในกองทัพหลิวปังรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ต้องโดนให้ไปปกครองที่ทุรกันดาร แต่เซียวเหอมองต่าง โดยมองว่าที่นี่คือที่สามารถจัดตั้งเป็นฐานที่มั่นได้อย่างดี มีอาหารอุดมสมบูรณ์ ประชากรหนาแน่น มีปราการธรรมชาติปกป้องจากผู้รุกรานได้
เซียวเหอได้เจอหานซิ่น โดยเดิมทีหานซิ่นเป็นทหารภายใต้การบังคับบัญชาของเซี่ยงอี้ แต่เนื่องด้วยไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวังจึงทำการย้ายมาอยู่กับกองทัพหลิวปิง หานซิ่นเริ่มต้นด้วยการเป็นทหารชั้นผู้น้อย พอเซียวเหอได้พูดคุยกับหานซิ่นแล้วพบว่าก็พบว่าเป็นคนที่มีศักยภาพในการเป็นแม่ทัพ สามารถบริหารกองทัพได้ แต่เมื่อหานซิ่นเติบโตไม่ได้ดั่งใจหวังจึงทำการหนีทัพ เมื่อเซียวเหอรู้เรื่องจึงควบม้าออกไปตาม แต่ในกองทัพหลิวปังเข้าใจผิดคิดว่าเซียวเหอหนีทัพ เมื่อหลิวปังรู้เข้าจึงกริ้ว เมื่อเซียวเหอพบกับหานซิ่นได้ทำการเจรจาเพื่อให้หานซิ่นกลับเข้ากองทัพ และได้เสี่ยงโหอิงช่วยเจรจาอีกที ทำให้หานซิ่นยอมกลับค่ายทหาร หลังจากนั้นเมื่อหลิวปังเจอเซียวเหอจึงทำการสอบถามว่าทำไมต้องหนีทัพ แต่เซียวเหอชี้แจงว่าไม่ได้หนีทัพ แต่ตามหานซิ่นกลับมา พร้อมทั้งได้อธิบายความสามารถหานซิ่นว่ามีความสามารถทั้งยืนกรานต้องแต่งตั้งหานซิ่นให้เป็นแม่ทัพใหญ่ จนหลิวปังตกลงให้หานซิ่นเป็นแม่ทัพใหญ่
เซียวเหอเองมีหน้าที่เป็นหลังบ้านให้กับหลิวปังในการดูแลปกครองบ้านเมือง ดูแลการสนับสนุนกำลังคน ดูแลการจัดสรรเงินทอง เสบียงในการรบ ส่งเสริมการทำการเพาะปลูกแก่ราษฎร จนราษฎรเชื่อใจเซียวเหอมากจนเกิดกระแสความไม่ไว้วางใจระหว่างเซียวเหอกับหลิวปัง เซียวจัดการได้ฉลาดมากโดยการส่งบุตรหลานไปเป็นตัวประกันกับหลิวปัง
เมื่อสงครามระหว่างฉู่ฮั่นจบลงแล้วด้วยผลงานทำให้หลิวปังแต่ตั้งเซียวเหอให้เป็นอัครมหาเสนาบดีคนแรกของราชวงศ์
เมื่อประสบความสำเร็จในการรวมแผ่นดินหลิวปัง หานซิ่นมีข่าวลือว่าจะเป็นกบฏจึงโดนลดตำแหน่งเรื่อยมา แต่ก็ยังไม่ได้รับความไว้วางใจเท่าที่ควร เซียวเหอในฐานะผู้ปลุกปั้นหานซิ่น เซียวเหอได้รับมอบหมายให้ลวงหานซิ่นให้ติดกับดักฮงเฮาในการสังหารหานซิ่น
เมื่อเกิดเหตุการณ์หานซิ่น เซียวเหอเกิดอาการระแวง สงสัยว่าการเพิ่มศักดินาและทหารให้เซียวเหอเพื่อลองใจ ดังนั้นจึงปฏิเสธไป ทำให้หลิวปังไว้วางใจเซียวเหอมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังหาตำหนิให้ตัวเองโดยการไปกดราคาที่ดินชาวบ้านเพื่อรับซื้อ เพื่อคลายความกังวลหลิวปัง
ต่อมาพอเมื่อเซียวเหอทำการขอที่ดินเพื่อแจกจ่ายชาวบ้าน กลับโดนหลิวปังตำนหนิ แล้วสั่งขังเซียวเหอ แต่ได้มีการขอร้องจากขุนนางจึงปล่อยตัวออกมา
จะเห็นได้ว่าเซียวเหอได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในฐานะขุนนางท่านหนึ่ง สามารถมีชีวิตอยู่ได้จนวาระสุดท้ายในสมัยหลิวปัง