ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่การใช้งานส่วนตัวอย่างการแนะนำเพลงที่ชื่นชอบ การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงการใช้งานในระดับองค์กรอย่างการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การพัฒนาหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ถึงแม้ว่า AI จะนำมาซึ่งประโยชน์มากมาย ช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างโอกาสใหม่ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบที่เราไม่อาจเพิกเฉยได้เช่นกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ด้านหลัก ๆ ดังนี้
1. ด้านการว่างงาน
AI สามารถทำงานที่มนุษย์เคยทำได้หลากหลายอย่าง ตั้งแต่งานที่ต้องใช้แรงงานซ้ำๆ เช่น การประกอบชิ้นส่วนในโรงงาน การหยิบจับสินค้าในคลังสินค้า ไปจนถึงงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง เช่น การตอบคำถามลูกค้า การตรวจสอบเอกสารทางกฎหมาย หรือแม้แต่การวินิจฉัยโรคเบื้องต้น ซึ่งล้วนเป็นภารกิจที่ AI สามารถเรียนรู้และทำงานทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้หลายตำแหน่งงานมีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่ด้วย AI ในอนาคตอันใกล้
การว่างงานจำนวนมากที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อาจนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา เช่น ความยากจน ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อัตราการ criminal activity เพิ่มสูงขึ้น หรือแม้แต่ความไม่สงบในสังคมจากความเหลื่อมล้ำที่ขยายตัว
2. ด้านความเหลื่อมล้ำ
เทคโนโลยี AI มีแนวโน้มที่จะกระจุกตัวอยู่ในมือของผู้ที่มีความรู้และทักษะด้านนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งในระดับบุคคล องค์กร และประเทศ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้และโอกาสมากขึ้น ระหว่างผู้ที่มีโอกาสเข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก AI กับผู้ที่ไม่มีโอกาส
ผู้ที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี AI ไม่ว่าจะเป็นเพราะขาดโอกาสทางการศึกษา ขาดทรัพยากรในการเข้าถึงเทคโนโลยี หรือแม้แต่ขาดความตระหนักรู้ถึงประโยชน์ของ AI อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงบริการและโอกาสต่างๆ ในสังคม
3. ด้านความเป็นส่วนตัว
AI สามารถเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของเราได้มากมาย ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานอย่าง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ไปจนถึงข้อมูลเชิงพฤติกรรมอย่าง ประวัติการค้นหาบนอินเทอร์เน็ต พฤติกรรมการซื้อสินค้า สถานที่ที่เดินทางไป หรือแม้แต่ข้อมูลสุขภาพ โดยข้อมูลเหล่านี้มักถูกเก็บรวบรวมโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่ทันได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา
ข้อมูลส่วนตัวที่ถูกเก็บรวบรวมโดยระบบ AI อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การโฆษณาที่ตรงเป้าหมายเกินไปจนสร้างความรู้สึกรุกล้ำความเป็นส่วนตัว การเลือกปฏิบัติในการให้บริการหรือการจ้างงานโดยอิงจากข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่การติดตามความเคลื่อนไหวของเราโดยที่เราไม่ยินยอม
4. ด้านความปลอดภัย
AI อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดโดยผู้ไม่หวังดี เช่น การสร้างอาวุธอัจฉริยะที่อันตรายและควบคุมได้ยาก การโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนและหลบเลี่ยงการตรวจจับได้ง่าย หรือการเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ดูเหมือนจริงจนยากต่อการแยกแยะ
การใช้ AI ในทางที่ผิดอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สร้างความวุ่นวายในสังคม หรือแม้แต่เป็นชนวนเหตุของความขัดแย้งระหว่างประเทศ
5. ด้านจริยธรรม
AI อาจมีอคติแฝงอยู่ในการตัดสินใจ เนื่องจากข้อมูลที่ใช้ในการฝึกฝน AI ส่วนใหญ่มาจากมนุษย์ ซึ่งอาจมีอคติทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา หรือความเชื่ออื่นๆ ติดมาโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้ AI เรียนรู้และสะท้อนอคติเหล่านั้นออกมาในการตัดสินใจ
การตัดสินใจของ AI ที่มีอคติแฝงอยู่ อาจนำไปสู่ความไม่ยุติธรรมในสังคม เช่น การเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน การให้สินเชื่อ หรือการตัดสินคดีความ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนอย่างร้ายแรง
แนวทางการแก้ไข
รัฐบาล ควรมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายที่ส่งเสริมการพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ กำหนดกรอบจริยธรรมในการพัฒนาและใช้งาน AI สนับสนุนการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจและลดผลกระทบด้านลบของ AI และให้ความสำคัญกับการศึกษาและพัฒนาทักษะให้ประชาชนพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ภาคเอกชน ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ลงทุนในการพัฒนาทักษะของพนักงาน เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้งาน AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ
ประชาชน ควรตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับ AI พัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ และมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนา AI ของประเทศ
สรุป
AI เป็นเทคโนโลยีที่มีทั้งประโยชน์และโทษ การตระหนักถึงผลกระทบด้านลบของ AI และร่วมมือกันหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมจากทุกภาคส่วน จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มที่ และสร้างสังคมที่ทุกคนได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง