การประกันชีวิต: ความหมาย และ เหตุแห่งการจ่ายเงิน
แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะไม่ได้ระบุความหมายของคำว่า “ประกันชีวิต” ไว้อย่างชัดเจน แต่ได้กำหนดเหตุการณ์ที่ทำให้มีการจ่ายเงินตามสัญญาประกันชีวิตไว้ 2 เหตุการณ์ ได้แก่ เหตุทรงชีพ และ เหตุมรณะ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ความหมายของการประกันชีวิต
อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า “การประกันชีวิต” คือ สัญญาซึ่งผู้รับประกันภัยตกลงจะจ่ายเงินหรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ หรือทายาทโดยชอบด้วยกฎหมาย (กรณีไม่ได้ระบุผู้รับประโยชน์ไว้) ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าผู้เอาประกันภัยได้เสียชีวิต หรือมีชีวิตอยู่ภายในระยะเวลาที่ได้ตกลงหรือกำหนดไว้ และในกรณีดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยตกลงที่จะชำระค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัยตามจำนวนเงินที่ได้ตกลงกันไว้
การประกันชีวิตเป็นการประกันความเสี่ยงในความไม่แน่นอนของเวลาที่ตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
การจ่ายเงินเอาประกันชีวิตไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตเท่านั้น (การใช้จำนวนเงินที่อาศัยการมรณะของบุคคลหนึ่ง) แต่ยังสามารถจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัยที่ยังมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดตามสัญญาได้อีกด้วย (การใช้จำนวนเงินที่อาศัยความทรงชีพของบุคคลหนึ่ง)
เหตุแห่งการจ่ายเงินหรือใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต
แบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่
1. การใช้จำนวนเงินโดยอาศัยความทรงชีพของผู้เอาประกันภัย
ผู้เอาประกันภัยส่งเบี้ยประกันภัยเป็นระยะเวลาตามที่กำหนดในสัญญา โดยมีข้อตกลงว่า หากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดในสัญญา ผู้รับประกันภัยจะจ่ายเงินหรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้
2. การใช้จำนวนเงินโดยอาศัยความมรณะของผู้เอาประกันภัย
ผู้เอาประกันภัยส่งเบี้ยประกันภัยเป็นระยะเวลาตามที่กำหนดในสัญญา โดยมีข้อตกลงว่า หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้รับประกันภัยจะจ่ายเงินหรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้
การเลือกซื้อประกันชีวิต
ขึ้นอยู่กับแบบความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยต้องการ
สรุป
การประกันชีวิตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างหลักประกันให้กับตนเองและครอบครัว ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉินหรือเสียชีวิต รวมถึงเป็นการออมเงินระยะยาวได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิต